ตัวเลข Treadwear และตัวอักษร Traction,Temperature บนแก้มยางคืออะไร?

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่เมื่อนำรถไปเปลี่ยนยาง ก็มักจะดูเฉพาะ “เดือน-ปีที่ผลิต” บนแก้มยางเท่านั้น แต่รู้ไหมว่ายางรถยนต์ทุกเส้นยังมีตัวเลขที่บ่งบอกถึงความนิ่ม-ความแข็งของเนื้อยาง รวมถึงอายุการใช้งานของยางเส้นนั้นๆ อีกด้วย


ค่า Treadwear บนยางบอกอะไร และ ดูอย่างไร?

ค่า Treadwear ใช้บ่งบอกถึงอัตราความสึกหรอของยาง ค่า Treadwear จะต่อท้ายด้วยตัวเลขที่แก้มยาง ตัวเลขยิ่งมากความทนทานก็จะมากตามไปด้วย ตัวเลขที่ต่อท้ายกำกับ เช่น 200, 260, 350, 400 หรือไปจนถึง 800

    - ยางที่มีค่า Treadwear สูง บ่งบอกถึงอัตราการสึกหรอที่ช้ากว่า สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า มีความแข็งของเนื้อยางมากกว่า แต่จะมีข้อเสีย เช่น ยางมีเสียงดัง แข็งกระด้าง ไม่เกาะถนนเท่าที่ควร ยางประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนักเช่นรถบรรทุกที่ ขับทางไกลเป็นประจำ

    - ยางที่มีค่า Treadwear ต่ำ จะมีอายุการใช้งานสั้นกว่า เนื่องจากยางมีอัตราการสึกหรอเร็วกว่า แต่จะมีข้อดีคือให้ความนุ่มนวลกว่า เงียบกว่าและยึดเกาะถนนมากกว่า

ควรเลือก Treadwear อย่างไร?
1.ยาง Treadwear ต่ำ 200: มีความยึดเกาะถนนที่ดีมาก เหมาะสำหรับรถที่ต้องการสมรรถนะสูง เช่น รถสปอร์ตหรือการแข่งรถ
2.ยาง Treadwear ปานกลาง (200-400): เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและความทนทาน
3.ยาง Treadwear สูง (500 ขึ้นไป): ทนทานต่อการใช้งานระยะยาว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือใช้งานที่เน้นความคุ้มค่า

อย่างไรก็ตาม ค่าของ Treadwear เป็นเพียงการเปรียบเทียบภายในแบรนด์เดียวกัน การใช้งานจริงยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการบำรุงรักษายางรถยนต์ด้วย!

ค่า Traction บนยางบอกอะไร ?

Traction คือค่าที่แสดงถึงระดับความสามารถของยางในการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียก ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้คุณภาพยางภายใต้ระบบ UTQG (Uniform Tire Quality Grading)

ค่าของ Traction มักจะแสดงด้วยตัวอักษรบนแก้มยาง ได้แก่:
AA: ระดับการยึดเกาะสูงสุด
A: ระดับการยึดเกาะดีมาก
B: ระดับการยึดเกาะปานกลาง
C: ระดับการยึดเกาะต่ำสุด

การใช้งาน Traction ในการเลือกยาง
Traction AA หรือ A: เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การขับขี่บนถนนเปียกหรือในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
Traction B หรือ C: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือพื้นที่ที่ถนนแห้งเป็นส่วนใหญ่

การพิจารณาค่า Traction เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สภาพถนนมีโอกาสเปียกหรือลื่นบ่อย!

ค่า Temperature บนยางบอกอะไร ?


Temperature เป็นค่าที่แสดงถึงความสามารถของยางในการทนต่อความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดคุณภาพในระบบ UTQG (Uniform Tire Quality Grading) ค่านี้ช่วยบ่งบอกถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยางในสภาวะที่ยางร้อนจัด

ค่าของ Temperature แบ่งออกเป็น 3 ระดับ โดยแสดงด้วยตัวอักษรบนแก้มยาง ได้แก่:
A: ทนต่อความร้อนได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
B: ทนต่อความร้อนได้ในระดับปานกลาง
C: ทนต่อความร้อนได้ต่ำสุด และอาจไม่เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง

การพิจารณา Temperature ในการเลือกยาง
Temperature A: เหมาะสำหรับรถที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง เช่น รถสปอร์ตหรือรถที่ใช้งานบนทางหลวงบ่อยครั้ง
Temperature B หรือ C: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในความเร็วต่ำถึงปานกลาง เช่น รถยนต์สำหรับครอบครัวหรือในเมือง

การเลือกยางที่มีค่า Temperature เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่อากาศร้อนหรือเส้นทางที่ต้องใช้ความเร็วสูงบ่อยครั้ง!

!-- Js files -->